วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร




              องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย อยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์

ราชวรมหาวิหาร มีประวัติความเป็นมายาวนานในแผ่นดินสุวรรณภูมิ เป็นที่ประดิษฐานพระบรม

สารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า

   องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐ ถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็น ประจำทุกปี


ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์




พระปฐมเจดีย์ หรือเดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวง ของแผ่นดินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราชเดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิก็เป็นได้ เพราะพระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือทรงมะนาวผ่าซีกแบบเดียวกับพระสถูปสาญจี แต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ มีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้ ซึ่งตรงกับความในศิลาจารึกหลักที่ 2 (ศิลาจารึกวัดศรีชุม) ของพระมหาเถรศรีศรัทธา อันได้กล่าวไว้ว่า พระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ท่านทรงได้แวะมาบูรณะพระธมเจดีย์องค์นี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับเมืองราด เมื่อคราวที่ท่านเสด็จกลับจากศึกษาศาสนาพุทธในประเทศศรีลังกา ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานนามใหม่ว่าพระปฐมเจดีย์ ด้วยทรงเชื่อว่านี่คือเจดีย์แห่งแรกของสุวรรณภูมิ นั่นเอง
ในเรื่องนี้ นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีบางท่าน ได้ระบุว่า พระปฐมเจดีย์ไม่ได้เป็นเจดีย์ที่เก่าที่สุดของสุวรรณภูมิ แต่เป็น พระมหาธาตุหลวง ในยุคทวารวดีมากกว่า เนื่องด้วยเหตุผลประกอบหลายประการ โดยเฉพาะ การค้นพบเจดีย์ ที่มีอายุเก่าแก่กว่าพระธมเจดีย์ และหลักฐานลายลักษณ์อักษร ที่ระบุว่า " พระเจดีย์องค์นี้ เดิมขอมเรียก พระธม " ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาวขอมจริงๆ หรือชาวลวรัฐ ซึ่งสมัยนั้นเราก็เรียกว่าขอม เช่น ขอมสบาดโขลญลำพง คำว่า ธม สำหรับชาวขอมนั้น แปลว่า ใหญ่ ตรงกับคำเมืองว่า หลวง ซึ่งเราก็เรียกพระนครธม ว่า พระนครหลวง ด้วยเหตุผลเดียวกัน




...... ช่วงนี้พอก่อนนะคะ แอดมินมีสอบ Final bye c u next time ค่ะ

วัดพระสมุทรเจดีย์




วัดพระสมุทรเจดีย์ หมู่ 3 บ้านเจดีย์ ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวัดราษฎร์ ฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ มีผู้คนมาเคารพสักการบูชา และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ผู้คนทั่วไปจะเรียกกันติดปากว่า พระเจดีย์กลางน้ำ เนื่องจากเดิม บริเวณที่ก่อสร้างพระสมุทรเจดีย์เป็นเกาะที่มีน้ำล้อมรอบ ต่อมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขินงอกออกมา เชื่อมติดกับเกาะอันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ สมุทรปราการ เป็นเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตัวเมืองเก่าอยู่แถบอำเภอพระประแดงและมีชื่อเรียกว่า “เมืองพระประแดง” เป็นสถานที่พักของเมืองสินค้าต่างชาติที่มาติดต่อค้าขายกับไทย ที่บริเวณริมทะเลมีการสร้างป้อมค่ายคูเมืองอย่างมั่นคงแข็งแรง ต่อมา ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดให้รื้อกำแพงเมืองพระประแดงออก
ในปี พ.ศ. 2362 สมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงเห็นว่าจะเป็นช่องทางที่ข้าศึกจะยกทัพมาได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองสมุทรปราการขึ้นที่ตำบลปากน้ำ โดยใช้เวลาสร้าง 3 ปี และได้จัดสร้างป้อมปราการขึ้นทั้งสองฝั่งแม่น้ำถึง 6 ป้อม คือป้อมประโคนชัย ป้อมนารายณ์ปราบศึก ป้อมปราการ ป้อมประกายสิทธิ์ ป้อมนาคราช และป้อมผีเสื้อสมุทร ในขณะที่สร้างเมืองนั้น รัชกาลที่ 2 ได้เสด็จทอดพระเนตรหลายครั้งและทรงสร้างพระมหาเจดีย์ ขึ้นที่เกาะกลางน้ำแล้วพระราชทานนามว่า “พระสมุทรเจดีย์” การสร้างยังมิทันเสร็จได้เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมา ในรัชกาลที่ 3 ได้ทรงสร้างต่อจนสำเร็จและสร้างป้อมขึ้นอีก 3 แห่ง คือ ป้อมตรีเพชร ป้อมคงกระพัน และป้อมเสือซ่อนเล็บ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2402 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้ทรงปฏิสังขรณ์พระสมุทรเจดีย์ให้สูงขึ้นและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมชายทะเลอีกแห่งหนึ่ง พระราชทานนามว่า “ป้อมพระจุลจอมเกล้า” ซึ่งในปัจจุบันป้อมต่างๆ ได้ปรักหักพังลงคงเหลือแต่ป้อมผีเสื้อสมุทรและป้อมพระจุลจอมเกล้าเท่าทุกวันนี้ บ้านสาขลา ตั้งอยู่ ใน ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ริมปากอ่าวไทยที่ตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มาช้านานหลายชั่วอายุคน
"สันนิษฐานว่าหมู่บ้านนี้มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยหรือต้นอยุธยาตอนต้น ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 1 เกิดสงคราม 9 ทัพขึ้น ผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารหมด เหลือแต่ผู้หญิง คนแก่ และเด็ก ยุคนั้นหมู่บ้านนี้ถือเป็นแหล่งเสบียงสำคัญเพราะมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทัพพม่าเมื่อเคลื่อนทัพผ่านมาจึงกวาดต้อนคนไทยและพยายามยามยึดเอาเสบียงอาหารไป แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ไม่ยอมจึงได้รวมพลังผู้หญิง เด็ก และคนชรา จับอาวุธเท่าที่หาได้ไม่ว่าจะเป็นดาบ มีด พร้า รวมถึงสากตำข้าวขนาดใหญ่ออกมาต่อสู้กับพม่าอย่างห้าวหาญ และด้วยแผนการรบที่ดีและความชำนาญภูมิประเทศ ทำให้สาวๆในหมู่บ้านนี้รบกับกองลาดตระเวนของพม่าจนพม่าต้องพ่ายแพ้ถอยทัพกลับไป"

วัดนาวง รังสิต



          วัดต่อไป เป็นวัดที่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ใกล้มอรังสิตนี่แหละ หลายคนคงเคยไปถ่ายภาพหรือทำบุญไหว้พระกันแล้ว..

                  วัดราษฎร์นาวง เดิมชื่อ “วัดโรงหีบ” ทั้งนี้มีประวัติที่มาของชื่อเท่าที่ศึกษาได้ว่าชื่อนี้เรียกตามที่ตั้งของวัด ซึ่งเคยเป็น

โรงหีบอ้อย และบริเวณของวัดโดยรอบก็เคยเป็นไร่อ้อยเมื่อกว่าร้อยปีก่อน ต่อมาภายหลังเลิกการปลูกอ้อยมาทำนาแทน ประชาชน

จึงเรียก วัดราษฎร์นาวงษ์ เป็น “วัดนาวง” ตามสภาพแวดล้อม ตั้งแต่นั้นมา



                  กล่าวกันว่าไร่อ้อยในท้องทุ่งหลักหก-ดอนเมืองนั้น ปลูกโดยพระพิสณห์สมบัติบริบูรณ์ ซึ่งเป็นข้าราชการกรมท่าซ้าย

 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 พระยาพิสณห์ฯ เป็นพ่อค้าเชื้อสายจีน เดินทางขึ้นล่องค้าขายใน

แถบประเทศใกล้เคียง โดยอาศัยสำเภาขนส่งสิ้นค้าทางทะเล ท่านประสงค์จะปลูกสร้างบ้านพักอาศัยที่ท่านเป็นผู้ออกแบบเอง

โดยใช้ประสบการณ์ที่ท่านได้เคยเห็นมาระหว่างเดินทางค้าขายไปในที่ต่าง ๆ บ้านที่ท่านต้องการสร้างมีลักษณะเป็นอาคารก่อ

ด้วยอิฐ ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีปูนซิเมนต์ใช้ การก่ออิฐจะเชื่อมประสานด้วยทราย ปูนขาว ผสมน้ำอ้อย ฉะนั้นจะต้องใช้น้ำอ้อยใน

ปริมาณมาก ท่านจึงนำชาวจีนมาทำไร่อ้อยในทุ่งหลักหก-ดอนเมือง และตั้งโรงหีบอ้อยขึ้นมาในทุ่งหลักหก-ดอนเมือง แห่งนี้













...สวยรึเปล่าค้ะ ใกล้มอรังสิตเราด้วย

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร




                 วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จ

พระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของ

สมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระ

อุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาท

สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับ

วัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรด

เกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนาม

วัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัด

ระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” เป็น “วัดราช

คัณฑิยาราม” (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้ ยังคงเรียกว่าวัดระฆังต่อมา



วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วัดพระศรีสรรเพชญ์


วัดที่ 2 ไปกรุงเก่าอยุธยากันเลย




              วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นวัดหลวงในพระราชวังโบราณ อยุธยา ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ซึ่งเป็นต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร



              วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรม

ไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ แล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบ

พิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัย

 ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูก

สถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ "สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง"




.... คงอยากไปเที่ยวกันแล้วสิท่า อิอิ

ประเดิม วัดแรก ด้วยวัด พระแก้ว



ประเดิมกันด้วยวัด พระแก้ว ค่ะ



            วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า

จุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรร

เพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่

ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว พบเจอวัด

พระแก้ว จังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำ

พรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส


            หลายคนคงรู้จักวัดพระแก้วดี ตั้งอยู่กลางเมือง กทม หลายคนชอบที่จะไปถ่ายรูป และเข้าชม และไหว้พระแก้ว

กันแล้ว เห็นแล้วรู้สบายใจ และพระแก้วนั้นมีความงาม ประณีตเป็นอย่างมาก และวัดแห่งนี้ เป็นวัดที่ยอดฮิตอันดับต้นๆ 

ของไทย ไม่ใกล้ไม่ไกล คงอยู่ในใจคนไทยในกรุงนะคะ


การแต่งกายเข้าวัดพระแก้ว

          การเข้ามาชมไปวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของชาติ จึงต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ อีกทั้งควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด ได้แก่ ห้ามสวมเสื้อแขนกุด สายเดี่ยว หรือเสื้อที่เปิดไหล่ทุกชนิด, ห้ามสวมใส่กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน กางเกนยีนส์ขาด ๆ ส่วนกระโปรงก็ไม่สั้นจนเกินไป ทางที่ดีควรเลยหัวเข่าลงมา ส่วนรองเท้าก็ควรเป็นรองเท้าสุภาพ 

          ทั้งนี้ หากเครื่องแต่งกายของคุณไม่เหมาะสมหรือถูกต้อง ทางสำนักพระราชวังได้จัดเตรียมเสื้อผ้าให้ยืมฟรี บริเวณประตูวิเศษไชยศรี แต่ต้องวางเงินประกันชิ้นละ 100 บาท กับบัตรประชาชนเอาไว้ และเมื่อเอาชุดมาคืนทางเจ้าหน้าที่ก็จะคืนทุกอย่างให้หมด

ข้อควรระวัง

           ไม่ควรใช้แฟลชในการถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับภาพจิตกรรมได้

           ภายในอาคารอื่นทั้งหมดโดยเฉพาะพระอุโบสถ ห้ามถ่ายภาพอย่างเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ และยึดสื่อบันทึก
                                                                       

                                                                .... สวยมากใช่ป่ะค้ะ ??

วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

คุณรู้จัก "วัด" ดีแล้วหรือยัง??


Blogนี้ ทำขึ้นเพื่อสำหรับทุกคนที่ชอบเที่ยว และทำบุญไปพร้อมๆกัน อิอิ



วันนี้ขอนำเสนอคำศัพท์ต่างๆ เกี่ยวกับวัดค่ะ

วัด   คือ    สถานที่ทางศาสนา  โดยปกติมีโบสถ์  วิหาร  และที่อยู่ของสงฆ์ หรือนักบวช ฯลฯ
 โบสถ์   คือ  สถานที่ที่พระสงฆ์ประชุมกันเพื่อทำสังฆกรรมต่างๆ  มีอุโบสถกรรมและอุปสัมปทากรรม ฯลฯ
วิหาร  หมายถึง วัด   ,ที่อยู่ของสงฆ์  ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่กับโบสถ์ ,การอยู่  ,พักผ่อน

 ส่วนประกอบต่าง ๆ ของหน้าบัน





               สีมา  หรือ เสมา   หมายถึง  เขต  ,แดน ,เตรื่องหมายบอกเขตโบสถ์สำหรับทำสังฆกรรมฯ


 วิหารคด หมายถึง  วิหารที่มีลักษณะคดอยู่ตรงมุม  อาจมีหลังเดียวก็ได้ โดยมากจะมี 4 มุม  ประดิษฐานพระพุทธรูป


พระพุทธรูปภายในวิหารคด


ปรางค์  หมายถึง  สิ่งก่อสร้างที่มียอดสูงขึ้นไป  มีรูปทรงคล้ายฝักข้าวโพด และมีฝักเพกาปักอยู่ข้างบน
(ซ้าย) พระปรางค์องค์ใหญ่(ขวา) พระปรางค์ทิศ  ภายในวัดอรุณราชวรารามฯ


ฝักเพกาบนยอดพระปรางค์ 


เจดีย์  หมายถึง  สิ่งซึ่งก่อเป็นรูปคล้ายลอมฟาง ตรงกลางมียอดแหลม  บรรจุสิ่งที่นับถือ มีพระธาตุเป็นต้น หรือหมายถึงสิ่งหรือบุคคลที่เคารพนับถือ  


มณฑป  หมายถึง  เรือนยอดที่มีรูปสี่เหลี่ยม


 ผ้าทิพย์  หมายถึง  ผ้าที่ห้อยตรงฐานพระพุทธรูป (โดยมากปั้นด้วยปูน ทำเป็นลายต่างๆ  แต่ที่ไม่เป็นลายก็มี)  ,ผ้าที่ห้อยหน้าราชอาสน์ หรือหน้าพลับพลา
รัตนบัลลังค์ หมายถึง  บัลลังค์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ชุกชี  หมายถึง  ฐานปูนสำหรับประดิษฐานพระประธานในโบสถ์หรือวิหาร ฯลฯ


ได้ความรู้เยอะเลย ใช่ป่ะค่ะ